Alternate Text

Embassy of SwedenBangkok, Thailand

Local time 7:03 AM

อัตราผู้เสียชีวิตบนท้องถนนเรียกร้องให้หาวิธีแก้ไข

19 May 2021

สวัสดีครับ ผมหมายความอย่างนั้นจริงๆ ผมได้เรียนรู้ว่า “สวัสดี” แปลว่า “ปลอดภัยและอยู่ในสภาพดี” นับว่าเป็นคำทักทายที่ลึกซึ้งและเหมาะมากกับหัวข้อที่ผมกำลังจะพูดถึง

เดือนนี้ประเทศไทยประสบกับจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 สูงอีกครั้ง การระบาดระลอกใหม่สอนว่าเราต้องคอยระมัดระวังตัวอยู่ตลอดเวลา แต่บางทีตอนนี้เราอาจจะต้องเรียนรู้ที่จะอยู่กับโรคนี้เช่นเดียวกับเกือบทุกประเทศทั่วโลก

อย่างไรก็ดี ยังมีการระบาดอีกประเภทหนึ่งในประเทศไทยที่ได้คร่าชีวิตคนไปมากมายทุกปีและทำให้บ้านแตกสาแหรกขาดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ อุบัติเหตุบนท้องถนนได้ส่งผลทำลายต่อชีวิตทุกวัย ต่อสาธารณสุข สังคมโดยรวมและต่อการพัฒนาประเทศในอนาคต

ไม่นานมานี้ ผมเพิ่งได้ใบขับขี่รถยนต์ของประเทศไทย ผมตั้งตารอที่จะได้สำรวจสถานที่ต่างๆในประเทศที่สวยงามแห่งนี้ซึ่งมีวัฒนธรรมหลากหลายในปีต่อๆ ไป ในฐานะผู้ขับรถ ผมได้สังเกตว่าความปลอดภัยบนท้องถนนเป็นปัญหาที่น่าเป็นห่วงมาก

ผมได้เห็นภาพน่ากลัวแต่กลับพบเห็นกันได้ทั่วไป ที่คนทั้งครอบครัวนั่งอัดกันบนจักรยานยนต์คันเดียว รถบรรทุกสัมภาระเกินพิกัดจนเอียง หรือคนขี่จักรยานยนต์สวนเลนหรือขึ้นไปขี่จักรยานยนต์บนทางเท้า

การกระทำเช่นนี้ไม่ควรกลายเป็นเรื่องปกติ

ตัวเลขที่น่าตระหนกช่วยให้เรามองปรากฏการณ์นี้ได้ชัดเจนขึ้น ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาในไทย มีคนประมาณ 20,000 คนเสียชีวิตในอุบัติเหตุการจราจรทุกปี ผมเสียใจที่เห็นว่าตัวเลขนี้ดูเหมือนจะคงที่ทุกปี

มีบางอย่างที่ขาดหายไปอย่างเห็นได้ชัดในการตอบสนองต่อสถานการณ์นี้ อุบัติเหตุบนท้องถนนดังกล่าวทำให้ไทยกลายเป็นสถานที่อันตรายต่อชีวิตมากที่สุดแห่งหนึ่งโลกในด้านผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุจราจรต่ออัตราประชากร นอกจากนั้น ยังมีเหยื่ออุบัติเหตุที่รอดชีวิตแต่ต้องพิการตลอดชีวิตอยู่อีกเป็นจำนวนที่มากกว่าด้วย

ตั้งแต่ปีที่แล้ว สถานเอกอัครราชทูตสวีเดนทำหน้าที่เป็นผู้ประสานงานของกลุ่มไม่เป็นทางการของคณะผู้แทนทางการทูตในกรุงเทพฯ ภายใต้ชื่อ "Embassy Friends of Road Safety" (EFRS) “ กลุ่มนี้ทำงานร่วมกับองค์กรอนามัยโลก หน่วยงานรัฐและเอกชนผ่านการรณรงค์ โครงการและความคิดริเริ่มต่างๆ เพื่อสร้างความตระหนักในปัญหาและปรับปรุงความปลอดภัยบนท้องถนนในประเทศไทย

อาจมีคนถามว่าทำไมสถานเอกอัครราชทูตต่างๆ ในประเทศไทยต้องอุทิศเวลา กำลังและทรัพยากรเพื่อปรับปรุงความปลอดภัยบนท้องถนนด้วย

ไทยเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของพลเมืองหลายล้านคนของเรา ไม่ว่าจะเป็นนักท่องเที่ยวหรือผู้อยู่อาศัยชั่วคราว แต่น่าเสียดายที่หลายคนก็กลายเป็นเหยื่อของอุบัติเหตุบนท้องถนนในประเทศไทยเช่นกัน การต้องแจ้งข่าวการเสียชีวิตของบุคคลอันเป็นที่รักให้แก่ครอบครัวผู้สูญเสียเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจนคุ้นเคยแต่ก็ยังน่าสะเทือนใจซึ่งสถานเอกอัครราชทูตต้องดำเนินการรวมถึงการช่วยเหลือในเรื่องพิธีฝังศพและนำศพกลับประเทศ

นอกเหนือจากการสูญเสียในชีวิตแล้วยังมีการสูญเสียทางเศรษฐกิจเป็นจำนวนมหาศาล จากงานวิจัยของสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (Thailand Development and Research Institute -TDRI) ชี้ให้เห็นว่าทุกชีวิตที่สูญเสียไปในอุบัติเหตุการจราจรทำให้ประเทศไทยคิดเป็นความสูญเสียทางเศรษฐกิจประมาณ 10 ล้านบาทต่อศพ

รวมแล้วแสดงให้เห็นว่าการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนทำให้เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจไทยคิดเป็นปีละเกือบสองแสนล้านบาทต่อปี นอกจากนี้ งานวิจัยของธนาคารโลกปี พ.ศ. 2561 ยังแสดงให้เห็นว่าหากไทยหากสามารถลดจำนวนผู้เสียชีวิตในอุบัติเหตุการจราจรได้ครึ่งหนึ่งภายใน 20 ปี จะสามารถเพิ่มผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติหรือ GDP ต่อหัวได้ถึง 22% ในระยะเวลาเดียวกัน

อุบัติเหตุบนท้องถนนยังทำเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศ มาตรการต่างๆ ในการลดจำนวนอุบัติเหตุบนท้องถนนได้รับการบรรจุในวาระการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ พ.ศ.2573 เนื่องจากมีความเชื่อมโยงกับความท้าทายของโลกด้านอื่น ๆ  อาทิ การดูแลสุขภาพและสิทธิมนุษยชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสิทธิต่อชีวิตและสิทธิต่อความมั่นคงส่วนบุคคล

ประเทศไทยยังได้ยืนยันว่าจะสนับสนุน “ปฏิญญาสตอกโฮล์ม” ซึ่งเป็นเอกสารจากการประชุมระหว่างประเทศในระดับรัฐมนตรีว่าด้วยเรื่องความปลอดภัยบนท้องถนน ครั้งที่ 3 ซึ่งประเทศไทยเข้าร่วมเมื่อปีที่แล้วและสนับสนุนข้อมติสมัชชาสหประชาชาติในเรื่อง “ปรับปรุงความปลอดภัยบนท้องถนนทั่วโลก” ในฐานะผู้สนับสนุนร่วม โดยมีเป้าหมายจะลดจำนวนผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจากอุบัติเหตุการจราจรอย่างน้อย 50% ก่อน พ.ศ.2573

ผมเชื่อมั่นว่าประเทศไทยจะสามารถบรรลุผลสำเร็จในการปรับปรุงความปลอดภัยบนท้องถนนด้วยความมุ่งมั่น ความทุ่มเทและให้พลเมืองเข้ามามีส่วนร่วม เช่นเดียวกันกับที่ไทยได้ทำในการร่วมมือต่อสู้กับโรคระบาดขณะนี้

ด้วยความเคารพ ผมขอเรียกร้องภาวะผู้นำที่เข้มแข็มจากผู้กำหนดนโยบายต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมความพยายามในการลดจำนวนผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจากอุบัติเหตุการจราจร

ขณะเดียวกัน ผมขอเรียกร้องให้ทุกท่าน ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติปฏิบัติตามหน้าที่ของตนโดยการเคารพกฎจราจร

หน้ากาก การเว้นระยะห่างและสุดท้ายคือวัคซีนสามารถและจะช่วยชีวิตได้มากมาย เช่นเดียวกัน การคาดเข็มขัดนิรภัยและสวมหมวกนิรภัย กานเคารพการจำกัดความเร็วและหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์แล้วขับยานพาหนะจะสามารถและช่วยชีวิตได้จริง

สุดท้ายนี้ ในนามของ EFRS ผมขอยืนยันความสนับสนุนและความร่วมมือกับประเทศไทยในทุกทางที่ทำได้ ไม่ว่าจะเป็นความช่วยเหลือด้านเทคนิค ความเชี่ยวชาญหรือการแบ่งปันแนวปฏิบัติที่ดีเพื่อรับมือกับความท้าทายต่างๆ ด้านความปลอดภัยบนท้องถนน

ขอให้ทุกคนปลอดภัยนะครับ

Jon Åström Gröndahl  เอกอัครราชทูตสวีเดนประจำประเทศไทย และผู้ประสานงานกลุ่ม Embassy Friends of Road Safety (EFRS) คนปัจจุบัน

 

Last updated 19 May 2021, 10.10 AM